
พี่ตุ๊กกี้
คืนถิ่นเหลือง-เทา ให้กำลังใจน้องใหม่ มมส ฝาก 3 ข้อคิดสู่ความสำเร็จ
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ (25 กรกฎาคม 2560) ที่อาคารพลศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คุณสุดารัตน์ บุตรพรม
หรือรู้จักกันในชื่อ ตุ๊กกี้ ชิงร้อย ซึ่งเป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ที่จบการศึกษาจาก สาขานาฏศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ได้มาเป็นแขกรับเชิญพิเศษ ในกิจกรรมโครงการปฐมนิเทศนิสิตใหม่ระดับปริญญาตรี
ปีการศึกษา 2560
สำหรับในวันนี้เป็นนิสิตใหม่กลุ่ม
มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จำนวน 9 คณะ รวม 9,281 คน ประกอบไปด้วย
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ คณะการบัญชีและการจัดการ
คณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม วิทยาลัยการเมืองการปกครอง
วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ คณะวัฒนธรรมศาสตร์ และคณะนิติศาสตร์
โดยพี่ตุ๊กกี้
ได้เปิดตัวด้วยผลงานเพลง ผู้สาวขาเลาะ เพื่อสร้างสีสันและความบันเทิง
ให้กับนิสิตใหม่ได้มีความสุขและเสียงหัวเราะ จากนั้น ได้ให้ข้อคิดเห็นจากประสบการณ์ตรงที่ได้ศึกษาในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ในช่วงปี 2541-2544 โดยพี่ตุ๊กกี้
กล่าวว่า ทุกคนโชคดีที่มีโอกาสได้ศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย
การศึกษาขึ้นอยู่กับตัวผู้เรียนสำคัญที่สุด และขอฝากข้อคิดไว้ให้น้องๆ
ได้มีความรักไว้ 3 ข้อ คือ
1. รักสถาบัน
เราต้องมีความรักและภูมิใจกับสถานศึกษาของเรา
ซึ่งจะเป็นแหล่งความรู้และประสบการณ์ที่จะต้องซึมซับเอาสิ่งต่างๆ
ที่คณาจารย์และเพื่อนๆจะมอบให้แก่เราให้มากที่สุด
2. รักครอบครัว
คือให้ระลึกเสมอว่า พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องทำงานเหนื่อย หนักแค่ไหน
ที่จะต้องหาเงินมาส่งเราเรียนในระดับปริญญาตรี ตลอด 4 ปี
เรามีหน้าที่ที่จะต้องตั้งใจเรียน ไม่นอกลู่นอกทาง ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ
และได้เห็นวันสำเร็จของเรา คือวันสำเร็จการศึกษา หรือวันรับปริญญา
3. รักตัวเอง
คือให้รู้จักรักตัวเอง ประคับประคองตัวเองให้ห่างไกลจากอบายมุข สิ่งยั่วยุที่เป็นภัยใกล้ตัวต่างๆ
สร้างวินัยในตนเอง ควบคุมความประพฤติ และรับผิดชอบต่อตนเอง
และถึงแม้การศึกษาเล่าเรียนจะเป็นภารกิจหลักของนักศึกษาทุกคน
แต่การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยก็มิใช่มีแต่กิจกรรมการเรียนการสอนเท่านั้น ช่วง 4 ปี
ในมหาวิทยาลัยเป็นช่วงสำคัญของชีวิตที่ทุกคน จะได้แสวงหาประสบการณ์ให้มากที่สุด
เพื่อให้พร้อมที่จะเผชิญโลกกว้างเมื่อสำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตไปแล้ว
"การเรียนเป็นงานประจำ กิจกรรมเป็นงานประกอบ"
จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำควบคู่กันไป” พี่ตุ๊กกี้
กล่าวทิ้งท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น